บทที่ 4 เตือนความจำ (3)

“ค่ะแม่” เป็นเสียงแม่ใหญ่จริง ๆ อยากบอกนะว่าเขาคือ อร๊าย!!! ฉันไม่อยากจะคิด “สบายดีค่ะ” “เนยอยู่กับพลอย อยู่คอนโดพี่เพชร” “ทำไมเหรอค่ะ” แม่ก็ถามว่าฉันเป็นยังไง พักอยู่ที่ไหนกับใครทำนองนั้น

“ไม่เป็นไรค่ะ เนยเกรงใจพี่เขา” ฉันยิ้มแหย ๆ มองร่างใหญ่ที่นอนคว่ำหน้าอยู่ตอนนี้ และสิ่งที่คิดมันก็จริง เขาคือลูกชายแม่ใหญ่ คุณเจย์เดน สามีโดยพฤตินัยฉันนั่นเอง

“แต่ว่าแม่คะ” ตายแล้วเอาไงดี แม่จะมาหาฉันอาทิตย์หน้าและบอกให้ฉันย้ายมาอยู่ที่นี่ คือจะอยู่ได้ยังไง แทบไม่รู้จักเขาเลย

“ค่ะ...เนยรู้แล้ว” จะปฏิเสธก็ไม่ได้ เพราะเรื่องที่ฉันเมาแม่รู้เรื่อง และสั่งให้ฉันอยู่ในความปกครองของอีตาบ้านี้จนกว่าจะกลับบ้าน “เนยรักแม่นะคะ” ฉันคุยกับแม่พักหนึ่งก่อนจะวางสาย

“อ๊ะ โอ๊ย!!” แต่พอจะลุกลงจากเตียงคืออยู่แบบนี้มันรู้สึกไม่ดี แค่ขยับตัวเท่านั้นแหละ มันเจ็บหน่วง ๆ ตรงหว่างขาเอามาก ๆ นี่ตกลงฉันเสียความบริสุทธิ์ให้เขาจริงเหรอ ก่อนหน้านี้ฉันยังแอบดีใจ ฉันอาจแค่เมาแล้วเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ คงไม่ทำอะไรจริง ๆ แต่เจ็บขนาดนี้คงไม่รอดแล้วล่ะ

“แม่ว่าไง” อยู่ ๆ เสียงเขาก็ดังขึ้นและดังใกล้หูฉันมาก “เฮือก!!” ฉันตกใจตาเบิกกว้างเมื่อเขายื่นหน้าเข้ามาใกล้จนริมฝีปากเราเกือบจะแตะกัน

“หิว ไปทำอะไรให้กินหน่อย!” เขาพูดเรียบ ๆ จ้องหน้าฉันตาเขม็ง “หิวก็ไปหากินเองสิ!” มันเรื่องอะไรที่จะต้องทำให้เขากิน อีกอย่างเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ทำไมเนยต้องทำให้คุณด้วย...ชิ” คิดแล้วมันแค้น ผู้ชายบ้าอะไรไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ทำได้แม้แต่คนเมา!

“แน่ใจ...ว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน” เขามองที่หน้าอกแล้วเอามือลูบปาก อี๋ ไอ้คนลามก

“ต้องให้เตือนความจำไหมว่าเมื่อคืนฉันเอาเธอท่าไหนบ้าง” มือหนายกขึ้นมาลูบไล้หัวไหล่อย่างแผ่วเบา “ไอ้บ้า คนโรคจิต!! ทำได้แม้แต่คนเมา!!” ไอ้คนชั่ว ทำได้แม้แต่คนเมา เขามันเลว

“หึ...คิดให้ดี ๆ ว่าใครกันแน่ที่เริ่มก่อน ทีแรกฉันแค่จะพาเธอมานอน แต่เธอเป็นคนเสนอให้ฉันเองนะ...ฉันก็แค่สนองความต้องการของเธอ ไม่คิดเลยว่าจะได้กินอะไรสด ๆ เห็นแรด ๆ แบบนี้ไม่คิดว่าจะ ซิง” ไอ้บ้า ไอ้ทุเรศ! ปากเหรอที่พูด

“อร๊าย!!!” เขาจับตัวฉันนอนราบลงกับเตียง “ปล่อยนะ!!” สองมือดันหน้าอกเขา “เมื่อคืนไม่เป็นแบบนี้นิ” ฉันนิ่งและคิดตามสิ่งที่เขาพูด และภาพทุกอย่างมันจะค่อย ๆ ย้อนเข้ามาในหัว

ฉันจำได้ว่าเขาเอาฉันนอนไว้ที่เตียงก่อนเขาจะถอดเสื้อโยนทิ้งและเดินเข้าห้องน้ำ แต่เป็นฉันเองที่ลุกขึ้นเดินเข้าไปกอดเขาจากด้านหลัง ฉันจำได้ว่าเป็นคนจูบเขาก่อน แบบนี้ไงถึงไม่อยากดื่ม!! เราจูบกันพักใหญ่ก่อนเขาจะผลักฉันนอนลงกับเตียง แล้วจากนั้นก็... อีเนย!!!

“ไง...หรือจะให้เตือนความจำให้ว่าทำท่าไหนบ้าง หึ..” เขายิ้มมุมปากอย่างพอใจ แต่ตอนนี้ฉันสิ ไม่มีอะไรเหลือแล้ว!!!

“ทำเป็นปากดี” เขาลุกขึ้นเดินลงจากเตียง “โรคจิต!!” ฉันเอามือปิดตาทันที ก็อีตาบ้าเนี่ยไม่ใส่อะไรเดิน แก้ผ้าล่อนจ้อน และไอ้นั้นเขานะ อร๊าย!! อุจาดตา

...เจย์เดนเห็นอาการเนยก็แอบหัวเราะในลำคออย่างพอใจ ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันท่อนล่าง

“แล้วตกลงแม่ว่าไง” ฉันค่อย ๆ เอามือออกและดึงผ้าห่มมาพันตัวแน่น แต่ต้องหัวใจเกือบหยุดเต้นเมื่อเห็นคราบอะไรบางอย่างอยู่บนที่นอน และนั่นมันคือความจริงว่าฉันเสียความบริสุทธิ์ให้เขาไปจริง ๆ

“หูหนวก เป็นใบ้?” เขาเดินเข้ามาใกล้ ๆ “........” ฉันเงียบไม่พูดอะไร จะให้พูดอะไรได้อีกละตอนนี้มันบอกไม่ถูก จะร้องก็ร้องไม่ออก ฉันค่อย ๆ ลุกและเก็บเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำทันที

“เห็นโทรศัพท์เนยไหม” ฉันค้นหาในกระเป๋าหลายรอบแล้วแต่มันไม่เจอจนสุดท้ายก็ต้องถามเขา “.......” เขาที่กำลังนั่งดื่มกาแฟอย่างใจเย็น หรี่ตามองมาที่ฉัน

“เอาไป!” เขาเดินเข้ามาใกล้ ๆ ก่อนจะโยนโทรศัพท์ให้ ถ้าฉันรับไม่ทันนะ ฉันสาบานว่าฉันจะฆ่าเขาให้ตายกับมือฉันเอง!

“เพื่อนหายไปทั้งคืน พวกแกไม่ห่วงฉันเลยนะ” ฉันเช็คโทรศัพท์แต่ไม่มีใครโทรหาหรือตามหาฉันสักคน ให้มันได้แบบนี้สิ

“ฉันบอกเพื่อนเธอเก็บของให้แล้ว” เขาพูดเรียบ ๆ “เก็บของเก็บทำไม?” ฉันหันขวับไปมองหน้าเขาทันที ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าแม่สั่งให้ฉันมาอยู่กับเขา

“ไม่เอา เนยจะอยู่กับพลอย!!” ฉันปฏิเสธเสียงแข็ง “ก็แล้วแต่” “บอกแม่เองแล้วกัน” เขาทำหน้ากวน ๆ แล้วเดินเข้าห้องน้ำ

“ไอ้บ้า!! โรคจิต!!“ ฉันบ่นพึมพำแล้วนี่จะกลับไปห้องพลอยได้ไง ตอนนี้อยู่ส่วนไหนของกรุงเทพก็ไม่รู้ เฮ้อ..ชีวิตให้มันได้อย่างนี้สิ โทรหาเพื่อนก็ไม่มีใครรับสาย คอยดูนะอย่าให้เจอนะ จะตบรายตัวเลย โอ๊ย

30 นาทีผ่านไป

“เป็นอะไร” คิ้วหนาเลิกขึ้นสูงมองมาที่ฉันที่เดินเอามือกุมท้องน้อย ยังจะมาถามว่าเป็นอะไรเพราะใครล่ะ “........” ฉันไม่ตอบ เขาเดินไปนั่งที่ปลายเตียง ส่วนเขานะทำหน้ากวน ๆ แล้วเดินไปใส่เสื้อผ้า

“นี่คุณมียาแก้ปวดไหม” ในที่สุดฉันก็ทนไม่ไหว มันหน่วง ๆ ที่ท้องน้อยและเจ็บตรงนั้นเอามาก “.......” เขาไม่ตอบแต่เดินตรงมาหา

“อร๊าย!!!” ฉันร้องเสียงหลงก็อีตาบ้านี่อยู่ ๆ ก็ผลักฉันนอนราบกับเตียง อีกครั้ง “เจ็บตรงไหน” เขาเอามือจับบริเวณหน้าท้อง “เป็นหมอรึไง” ฉันปัดมือเขาออก

“นี่ปล่อยนะ” เขาจ้องฉันตาเขม็งและจับมือทั้งสองข้างไว้แน่นด้วยมือข้างเดียว “ปากดีแบบนี้มันน่าเอา....” เขามองที่เป้าตัวเอง “ยัดปาก หึ..” พร้อมยกยิ้มมุมปาก

“โรคจิต! ทุเรศ ลามก! ปล่อยนะ” จะดิ้นแรงก็ไม่ได้มันเจ็บตรงนั้น “อยากให้ปล่อย?” “......” ฉันพยักหน้า “ไหนพูดเพราะ ๆ ทำตัวน่ารัก” อะไรของเขาจะเอายังไงกับฉัน

“......พี่เจย์เดนขา ปล่อยเนยนะคะ คือตอนนี้เนยหิวข้าว เนยอยากไปหาเพื่อน” ฉันพยายามใจเย็นและทำตามที่เขาบอก “นะคะ ปล่อยเนยนะ” ทำหน้าอ้อน ๆ ตาปริบ ๆ “พี่เจย์ขา ปล่อยเนยนะ” เขาไม่ยอมปล่อยฉันสักที

“นี่!!” “คุณจะเอายังไง” “อ้อนก็อ้อนแล้ว พูดดีด้วยก็แล้ว” “ตกลงจะปล่อยไหม!!” สุดท้ายฉันก็ทนไม่ไหวก็อีตาบ้านี่กวนประสาทอยู่นั่นแหละ

“หึ...ถ้าฉันไม่ปล่อยเธอจะทำไม” “อย่าลืมนะว่าฉันมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกอย่าง” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ แทบจะจูบกันรอมร่อ

“ไม่มี!! อย่ามาอ้าง เรื่องเมื่อคืนเนยจะคิดแค่ว่าฝัน ต่อไปเราต่างคนต่างอยู่!!” ฉันพูดเสียงแข็ง คนบ้าอะไรไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษสักนิด

“ต่างคนต่างอยู่?” คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน “ใช่!!” ฉันตอบอย่างหนักแน่น ถ้าให้อยู่กับคนแบบนี้นะ อยู่กับหมายังดีกว่า!

“โอเค!! แต่อย่าลืมนะว่าเธอเป็นเมียฉัน ทั้งในทางพฤตินัยและนิตินัย หึ...” เขาหัวเราะเบา ๆ “ก็แค่ในนาม อีกหน่อยเนยจะหย่ากับคุณแน่นอน” ฉันเถียงสุดชีวิต

“หึ...เธอไม่เหมือนอย่างที่ฉันคิดเลย แบบนี้สิฉันชอบ” เขาเอาปลายจมูกมาคลอเคลียแก้มอย่างน่ารำคาญ

“ฮือ!!!” ก่อนเขาจะประกบปากจูบบดขยี้ริมฝีปากฉันอย่างแรง

งับ!!!

“นี่!! เธอ!!” “สมน้ำหน้า!” ฉันกัดปากเขาก่อนจะผลักเขาจนล้มและรีบลุกขึ้น

“หยุด!!” “อย่าเข้ามานะ” ฉันวิ่งหนีเขาที่จ้องฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ... “นี่!! บอกว่าอย่าเข้ามาไง!!” “ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไงกัน!” ฉันหนีเขา เจ็บก็เจ็บ แล้วยังต้องมาเจอคนบ้าอีก ชีวิตฉันทำไมมันน่าสงสารแบบนี้ แม่นะแม่จะรู้ไหมว่าลูกชายแม่โรคจิตขนาดไหน!!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป